ทุกวันนี้หลายคนต่างฝันที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง อยากมีธุรกิจเป็นของตนเองแต่ก็ยังไม่กล้าเดินออกจากกรอบของความปลอดภัยในฐานะพนักงานประจำ พอใกล้จะเกษียณอายุก็เริ่มมองหาธุรกิจเล็ก ๆ ทำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถลงทุนทำธรุกิจของตนเองได้ตั้งแต่วัยเริ่มทำงาน เพื่อหารายได้เสริมให้กับตนเองและธุรกิจเพื่อหารายได้เสริมนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และคุณก็ยังสามารถทำงานประจำไปด้วยได้
ที่สำคัญเมื่อถึงวันเวลาในวัยเกษียณ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของคุณก็จะกลายเป็นการทำรายได้ที่คุณไม่ต้องไปเสียเวลาดูแลมาก หรือ Passive Income ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่า เมื่อเกษียณแล้วถ้าเงินสะสมที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดไปคุณจะไปหารายได้จากไหน เพราะอสังหาฯ ที่คุณปล่อยให้เช่านั้นยังคงดำเนินต่อไปได้ด้วยตัวมันเอง
1. ปรับปรุง บ้าน เก่าเพื่อขาย
แนวทางแรกนี้ต้องเป็นคนที่มีเงินลงทุนหน่อย เพราะคุณต้องไปซื้อ บ้าน เก่าในราคาถูกนำมาปรับปรุงและขายในราคาที่ได้กำไรจากราคาที่ซื้อมา ธุรกิจนี้เกิดขึ้นเพราะบ้านเก่าในกรุงเทพฯ หลายหลังอยู่ในทำเลที่ดีแต่ไม่ค่อยมีคนรู้ หรือ บ้านบางหลังที่หลุดจำนองจากธนาคารซึ่งการไปหาเพื่อให้ได้มานั้นคุณต้องซอกแซกหน่อยทั้งตามอินเทอร์เน็ต หรือ ประกาศขายทรัพย์สินหลุดจำนองของธนาคาร จากนั้นก็ต้องลงทุนในการปรับปรุงบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมขาย
ซึ่งราคาในการขายนั้นก็จะเพิ่มขึ้นจากที่ซื้อมาก็อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ เพราะความได้เปรียบในเรื่องทำเลและ สภาพบ้านที่ผู้ซื้อนั้นสามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้คุณอาจจะต้องมีเวลาในการหาบ้าน ควบคุมผู้รับเหมาในการปรับปรุง และมีคอนเนคชั่นกับนายหน้าที่ซื้อ ขายบ้าน หากพิจารณาแล้วว่าคุณมีครบก็ลองกระโจนเข้าสู่การหารายได้พิเศษทางนี้ดู แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่กำลังต่อหลังนั้นนับว่าคุ้มเลยทีเดียว
2. ทำบ้านเช่า
หลายคนที่มีบ้านสองหลังอยู่ในกรุงเทพฯ หรือบางคนมีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ และมีบ้านที่ต่างจังหวัดอีกหนึ่งหลัง และ หนึ่งในสองหลังนั้นมักจะไม่มีคนอยู่ อาจจะเป็นบ้านพ่อแม่ หรือ บ้านปู่ย่าตายาย ที่คุณไม่ได้กลับไปอยู่แล้วเพราะลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองเป็นที่เรียบร้อย หลายคนอาจคิดว่าขายดีกว่า เพื่อรับเงินก้อนแต่บางคนก็ปล่อยให้เช่าเพราะมองว่าเป็นรายได้เสริมในระยะยาว
อันที่จริงแล้วหากบ้านหลังนั้นพอมีพื้นที่และแบ่งเป็นห้องได้โดยที่คุณปรับปรุงห้องน้ำให้มีในทุกห้อง คุณก็สามารถดัดแปลงบ้านเก่าของคุณเป็นบ้านเช่าได้ และทำให้คุณมีรายได้เสริมโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ที่สำคัญยังเป็นรายได้ที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต โดยที่คุณอาจจ้างคนดูแลบ้านไว้สักหนึ่งคนเพื่อดูความเรียบร้อย ซึ่งการแบ่งห้องในบ้านเก่าเป็นห้องเช่านั้น จะทำให้คุณมีลูกค้าหมุนเวียนมาเรื่อย ๆ และกลายเป็นรายได้เสริมที่อาจทำให้คุณวางแผนเกษียณได้เร็วขึ้น เพียงแต่คุณต้องมีคอนเนคชั่นที่ดีกับเหล่าช่างประจำบ้าน เพราะธุรกิจบ้านเช่า กับช่างซ่อมบ้านนั้น เป็นของที่ขาดกันไม่ได้
3. ซื้อบ้านแล้วแบ่งห้องให้คนอื่นเช่า
ข้อนี้อาจคล้ายข้อที่สอง เพียงแต่คุณจะอยู่ในบ้านที่แบ่งห้องให้เช่าด้วย ซึ่งธุรกิจแนวนี้ยังมีไม่มากนักในเมืองไทย แต่ในต่างประเทศนั้น บรรดาคนสูงอายุ มักจะเปิดห้องในบ้านให้คนเช่าโดยที่ตนเองจะยังอาศัยอยู่ในชั้นล่างของบ้าน ซึ่งคุณเองก็ทำได้ ด้วยการแบ่งพื้นที่ห้องที่ให้เช่าให้เป็นสัดส่วน รวมไปถึงพื้นที่ที่ต้องใช้สอยรวมกันอย่างห้องนั่งเล่น ห้องครัว รวมไปถึงพื้นที่อยู่อาศัยของคุณเอง
ซึ่งจะทำให้คุณอยู่ในบ้านของตนเองได้โดยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม และถ้าวันหนึ่งคุณต้องย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่ บ้านหลังนี้ก็มีคนเช่าอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่วิธีนี้คุณคงต้องสกรีนคนเช่าให้มากเสียหน่อย เพื่อให้การอยู่รวมกับผู้เช่าของคุณไม่เกิดปัญหาใด ๆ
4. ลงทุนในตึกแถวแล้วปล่อยให้เช่าระยะยาว
ลงทุนในอสังหาฯลักษณะนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องของคนรุ่นเก่า แต่ก็ยังเป็นธุรกิจที่ยังอยู่ได้ในปัจจุบัน การลงทุนซื้อตึกแถวในทำเลค้าขายหรือใกล้มหาวิทยาลัยยังคงเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า เพราะอย่างไรเสียพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องการทำเลและอาคารที่มั่นคงสำหรับค้าขาย และเป็นธุรกิจที่คุณสามารถปล่อยให้เช่าในระยะยาวได้ ถ้ามีเงินน้อยก็อาจจะซื้อแค่ห้องเดียว แต่ถ้ามีเงินมากก็อาจซื้อสองหรือสามห้อง แล้วนำเอาค่าเช่านั้นไปผ่อนกับแบงก์อีกที ถือว่าเป็นธุรกิจที่กินยาว ๆ
5. ซื้อ คอนโดมิเนียม มือสองแล้วปล่อยให้เช่า
ถ้าคุณยังมีเงินไม่มากพอ แต่อยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขอแนะนำให้ซื้อคอนโดมิเนียมมือสองที่อยู่ในระดับราคา 8 แสนถึง 1.5 ล้านบาทเพราะจะทำให้คุณสามารถทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารได้ไม่ยาก และปล่อยห้องให้เช่าได้ง่าย
โดยเลือกคอนโดมิเนียมมือสองแล้วนำมาปรับปรุงก่อนปล่อยให้เช่า เพราะคอนโดมิเนียมมือสองจะทำให้คุณได้ทำเลที่ดี อาจจะอยู่ในแนวรถไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษา หรือแม้แต่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม เหล่านี้ล้วนเป็นทำเลที่น่าสนใจเพื่อการลงทุน
ทั้งนี้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น ข้อแรกที่คุณต้องสำรวจตนเองก่อนเลยคือสภาพคล่องทางการเงินของคุณเอง ถ้าคุณมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งแล้วไม่อยากฝากธนาคารอย่างเดียว จะเอามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นเรื่องที่ทำได้เลย
นอกจากนี้แล้วการมีคอนเนคชั่นกับช่างประจำบ้านทั้งหลาย รวมไปถึงนายหน้าที่ซื้อขายอสังหาฯ ก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งของแบบนี้ต้องเก็บเกี่ยวไปเรื่อย ๆ ตามประสบการณ์ และสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องไม่ลืมคือการเลือกผู้เช่า ที่ต้องสกรีนกันให้ละเอียดก่อนจะปล่อยทรัพย์สินของคุณให้คนอื่นเข้ามาอยู่ เพราะมิเช่นนั้น บ้าน หรือ ตึกแถว หรือแม้แต่คอนโดฯของคุณ อาจถูกทำให้เสื่อมโทรมก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้
Leave a Comment