เมื่อใดก็ตามที่สาวๆ ได้ลองมีห้องส่วนตัวขึ้นมาละก็ ทุกคนคงฝันหวานว่าจะได้ แต่งห้อง ให้เป็นไปอย่างที่เคยไปปักหมุดทิ้งไว้ใน Pinterest  หรือ Post it หน้านิตยสารตกแต่ง บ้าน น้องเพชร เพชรรัตน์ ศฤงคารเจษฎา สาวน้อยที่รักทั้งเรื่องสวยๆ งามๆ และการตกแต่งห้องจึงทุ่มสุดตัวกับการแต่ง ห้องนอน ส่วนตัว ที่แม้จะมีน้องสาวเป็นรูมเมทด้วย แต่เพราะไอเดียกระฉูดของตัวเอง จึงเป็นคนคิด วางแผนและออกแบบห้องนอนด้วยตัวเองทั้งหมด

สภาพห้องโล่งๆ ดั้งเดิม

ห้องนอนของน้องเพชรมองแล้วถือว่าค่อนข้างเล็กเพราะมีพื้นที่เพียง 17 ตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายสำหรับการคิดออกแบบตกแต่งห้องให้ออกมาลงตัว ใช้งานได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ส่วนตัว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เนื่องจากน้องเพชรเป็นสาวของเยอะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์เรื่องสวยๆ งามๆ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน ดังนั้นเธอจึงต้องวางแผนห้องนอนห้องนี้ให้ออกมาลงตัวและตรงใจด้วยในคราวเดียวกัน

น้องเพชร เจ้าของห้อง

ภาพการออกแบบจากแอพ Houzz

ช่วงแรกน้องเพชรเริ่มจากการหา Mood & Tone ของห้องตามที่ตัวเองชอบก่อน ซึ่งตั้งใจว่าต้องแตกต่างจาก คอนโดใกล้รถไฟฟ้า เดิมของตัวเองที่ใช้สีเทามืดๆ ทั้งห้อง (มันทำให้รู้สึกง่วงทั้งวัน) พอมีห้องนอนของตัวเองจึงเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่างๆ เพราะตัวเองชอบถ่ายรูป นอกจากนั้นยังใช้สไตล์ Nordic (สไตล์การออกแบบ ตกแต่งบ้าน แบบหรูหราเหมือน แบบบ้าน โซนอากาศหนาว) โดยยังคุมโทนสีขาว ดำ เงิน ใสๆ และหินอ่อนวัสดุที่น้องเพชรโปรดปรานมาก

จากนั้นก็ใช้โปรแกรม Power Point และแอพ Houzz ลองวางว่าจะเอามุมไหนทำเป็นอะไรบ้างตามประสาคนของเยอะ แต่ที่แน่ๆ ต้องมี Walk in Closet แบบที่ตัวเองต้องการเพื่อช่วยแก้ปัญหาของรก แม้หลายคนจะคัดค้านแต่เธอก็ยืนยันที่จะกั้นเป็นโซนเก็บเสื้อผ้าและโต๊ะแต่งตัวในพื้นที่เดียวกัน

เมื่อได้ภาพห้องที่ตัวเองต้องการแล้วเจ้าของห้องเริ่มจากทำส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ก่อน เช่นกั้นห้องติด PVC ลายหินอ่อนที่เป็นทั้งหัวนอนและฉากกั้นอีกด้านของห้องแต่งตัว จริงๆ ในส่วนนี้น้องเพชรเลือกสมาร์ทบอร์ดแทนการใช้กระเบื้องลายหินอ่อนเพราะมันเบากว่า และยังทนทานใช้ได้ จากนั้นจึงใช้สติกเกอร์วอลล์เปเปอร์ลายหินอ่อนมาติดทับลงไป รวมมูลค่าในโซนนี้ก็หมดไป 7,000 บาท ค่าสมาร์ทบอร์ด 4,500 บาท ค่าสติกเกอร์วอลล์เปเปอร์อีก 2,500 บาท

ภาพ Build in Closet

สำหรับ Build-in Closet  นั้นเปลี่ยนใจให้แบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบรนด์หนึ่งออกแบบให้ ซึ่งรวมราคาออกมาแล้วค่อนข้างสูง น้องเพชรจึงใช้วิธีการลดจำนวนและขนาดลิ้นชักลง ซึ่งก็ออกมาพอเหมาะพอดีกับที่เจ้าตัวต้องการ เมื่อรวมทั้งหมดแล้วราคาอยู่ที่ 45,000 บาท ถัดไปเป็นการทาสีบัวกับสีประตูใหม่ ซึ่งเดิมเป็นสีน้ำตาลไม่เข้ากับธีมห้อง ส่วนประตูเป็นสีขาวชวนให้นึกถึงตอนอยู่หอพัก จึงเลือกใช้สีเทาม่วงให้เป็นสีประตูเพื่อให้เข้ากับผ้าม่านของห้องและดูเหมือนประตูบ้านในแถบยุโรป แต่สุดท้ายออกมาเป็นอีกสีหนึ่งเพราะคุณพ่อหยิบกระป๋องสีผิด (แต่น้องเพชรก็เลยตามเลย) จากนั้นจึงติดแอร์ ติดม่าน ซึ่งราคาติดม่านรวมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ 16,344 บาท

เมื่อการทำงานในส่วนฮาร์ดแวร์เสร็จสิ้นแล้ว ถัดมาเป็นเรื่องของการตกแต่งในโซนต่างๆ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ที่เจ้าของต้องการความพิเศษให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบมีไฟดวงๆ แบบ back stage เพราะมีความเป็นเซเลบริตี้และกระจกทรงยาวพร้อมรถเข็นใส่อุปกรณ์ตั้งไว้ข้างโต๊ะ (ให้อารมณ์เหมือนร้านเสริมสวย) ค่าใช้จ่ายสำหรับบริเวณนี้รวมแล้วกว่า 8 พันบาทเพราะเป็นค่ากระจกที่สั่งตัดจากร้านกระจก รางไฟและหลอดไฟ 10 ดวง รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้ง สตูลนั่งแต่งหน้า  2 ตัวและรถเข็นใส่อุปกรณ์สวยๆ งามๆ

สำหรับโซนโต๊ะทำงานนั้นเน้นความเรียบง่าย และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับพื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยการใช้ที่เก็บของ 8 ช่องมาเป็นขาโต๊ะข้างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นที่เก็บของแล้วยังเป็นขาโต๊ะได้ด้วย รวมๆ แล้วโซนนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณกว่า 2 หมื่น

ถัดมาเป็นโซนนั่งเล่น พื้นที่ๆ เจ้าของห้องคิดหนักมากว่าจะทำเป็นอะไรดี ซึ่งสุดท้ายเลือกเป็นโซนสำหรับเก็บรองเท้า เพิ่มความสวยงามด้วยชั้นแขวนติดผนัง และกล่องที่เป็นได้ทั้งที่เก็บของและที่นั่งเล่น สุดท้ายโซนห้องนอนก็ตกแต่งตามใจเจ้าของห้องสุดๆ พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกเตียงนอน โคมไฟ และเดินเลือกซื้อของตกแต่งห้องจากทุกที่อย่างละเอียด สำหรับของตกแต่งห้องน้องเพชรใช้วิธีนำของที่ปกติเวลาไปเที่ยวแล้วเดินเลือกซื้อเก็บไว้มาตกแต่งห้อง ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ได้ดูเยอะจนเกินไป

สรุปรวมค่าใช้จ่ายที่ใช้ทั้งหมดประมาณ 140,000 บาท ซึ่งได้ห้องออกมาตรงที่ใจตัวเองต้องการ ส่วนทริคสำคัญในการออกแบบตกแต่งที่อยากไว้แนะนำสำหรับมนุษย์ของเยอะนั่นคือการรู้จักทิ้งก่อนที่จะเริ่มจัดหรือออกแบบห้อง ซึ่งช่วยได้มาก

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก YOUR ROOM IS THE BEST STUDIO