ปกติแล้วเราอาจมองว่าการเลือกสีทา บ้าน ไม่ใช่เรื่องยากหรือจำเป็นต้องคิดอะไรมากให้วุ่นวาย เป็นสีอะไรก็ได้ที่ใช้งบประมาณน้อยที่สุดหรือหาง่ายที่สุด ก็ทำให้ บ้าน ดูดีได้แล้ว แต่ความจริงแล้ว สีมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของเรามากกว่าที่คิด ซึ่งบ้านคือสถานที่ที่เราใช้พักผ่อน ดังนั้น อาจไม่ดีเท่าไรนัก หากบ้านจะดูไม่น่าอยู่หรือส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้เพียงเพราะสีที่ใช้ทางบ้าน

สี มีอิทธิพลทางจิตวิทยาที่จะกระตุ้นให้เกิดหรือลดความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ ได้ สำหรับใครที่กำลังปลูกบ้าน หรือปรับปรุงบ้านใหม่ ควรเลือกสีเฉพาะให้เหมาะกับห้องต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ที่สำคัญที่สุด หากเราวางแผนที่จะ ขายบ้าน เป็นบ้านมือสอง สีที่ใช้ก็มีผลต่อมูลค่าบ้านด้วย หากอยากขายบ้านได้ราคาดี ๆ ดึงดูดคนให้มาซื้อ ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเลือกสีสำหรับทาสีห้องในบ้าน อย่างสีที่ควรใช้และสีที่ควรหลีกเลี่ยง

อย่าใช้สีแดงกับ ห้องนอน

มีงานวิจัยของ Rochester University ที่พบว่าสีสามารถกระตุ้นอารมณ์และการแสดงออกที่รุนแรงได้ เช่น ความโกรธ อย่างสีแดง เรามักจะใช้เพื่อแสดงถึงอันตราย เมื่อเห็นสีแดง เราจะรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม ทั้งยังทำให้เกิดความรู้สึกฟุ้งซ่านและเป็นกังวล ซึ่งห้องนอนนั้น มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการพักผ่อน จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สีแดงกับห้องนอน

ห้องทำงานไม่ควรทาสีขาว

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ห้องสีขาวที่มีแสงสว่างจ้า สามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจและทำให้ดวงตาล้าได้ หากต้องการการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต้องหลีกเลี่ยงการทาห้องทำงานเป็นสีขาว อย่างไรก็ดี บางคนคิดว่าสีขาวเหมาะกับห้องน้ำ แต่คนที่คิดจะซื้อบ้านทุกวันนี้ไม่เห็นแบบนั้น จากการวิจัยของ Zillow ที่เลือกสีทั่วไปสำหรับห้องน้ำ จะลดมูลค่าบ้านลงมาได้ อย่างผนังสีขาวนั้นมันดูน่าเบื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าห้องน้ำบ้านเราไม่ได้รับแสงจากธรรมชาติอย่างเหมาะสม

ไม่ควรใช้สีเหลืองในห้องครัว

ในวงการอสังหาริมทรัพย์ การใช้สีเหลืองกับห้องครัวทำให้มูลค่าบ้านถูกลง เนื่องจากสีเหลืองมีผลทางจิตวิทยาแบบเดียวกันกับสีส้ม ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาหรือความสนุกสนาน อย่างไรก็ดี มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่กลมกลืนกับสีอื่น ๆ ในห้องครัว อีกทั้งยังมีอิทธิพลทางอารมณ์ต่อเจ้าของบ้านมากเกินไป ถ้าอยากใช้สีเหลืองในบ้าน ให้เลือกใช้กับห้องเด็ก กระตุ้นให้เกิดบรรยากาศที่สดใสและมีชีวิตชีวา

สีม่วงก็ไม่เหมาะกับห้องนอน

นอกจากสีแดงแล้ว ก็ไม่ควรใช้สีม่วงกับห้องนอนด้วยเช่นกัน แม้ว่าสีม่วงเข้มจะทำให้ห้องนอนดูเก๋ไก๋และดูหรูหรา แต่จากการวิจัยของ Travelodge พบว่าสีม่วงรบกวนการนอนหลับมากที่สุด คนที่ทาห้องนอนด้วยสีม่วง เวลาเฉลี่ยของการนอนหลับจะมากที่สุดเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น

หลีกเลี่ยงสีน้ำตาลเข้ม

เพราะการใช้สีน้ำตาลเข้มทาภายนอกนั้นดูไม่สวย อย่างในบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ใช้สีน้ำตาลเข้มเป็นสีมาตรฐานกับบรรจุภัณฑ์บุหรี่ เพื่อให้คนรู้สึกไม่อยากสูบบุหรี่ อันที่จริง ไม่ควรจะมีพื้นที่ใดในบ้านที่ใช้สีน้ำตาลเข้มด้วยซ้ำ ไม่เพียงแต่ดูธรรมดา น่าเบื่อ แต่มีสถิติที่ระบุว่าบ้านที่มีผนังสีน้ำตาลขายได้ราคาถูกกว่าราคาตลาด

สีชมพูใช้ไม่ได้จริง

การใช้สีชมพูกับห้องเด็กอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมว่าเด็ก ๆ ไม่ได้จะเป็นเด็กตลอดไป พวกเขาเติบโตขึ้นทุกวัน และพวกเขาคงอยากได้สีผนังห้องแบบกลาง ๆ มากกว่า นอกจากนี้ Zillow ยังรายงานว่าบ้านที่มีผนังสีชมพูก็ราคาตกด้วยเช่นกัน หากต้องการใช้สีชมพู ควรใช้กับมุมเล็ก ๆ ของบ้าน ที่เป็นมุมส่วนตัวของเราก็พอ สีหวาน ๆ แบบสีชมพูอาจดูเหมาะกับเด็กผู้หญิง แต่มันไม่ได้เหมาะกับการทาสีบ้านไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีแผนที่จะขายบ้านในอนาคต

สีฟ้าไม่เหมาะกับห้องครัว

สีมีความเกี่ยวข้องและมีอิทธิพลต่อเรามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของพฤติกรรมและอารมณ์ และสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน คือสีที่เรามักจะเห็นว่ามันปรากฏบนอาหารที่เน่าเสีย มันเลยทำให้สีฟ้าไม่เหมาะกับห้องครัว อย่างไรก็ดี กลับมีการศึกษาจาก University of Basel พบว่าสีฟ้าไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังพยายามลดน้ำหนักเท่าไรนัก เพราะอาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน มีแนวโน้มว่าคนจะดึงดูดให้ซื้อมาบริโภคมากขึ้น

หลีกเลี่ยงสีดำเป็นสีทาภายนอก

แม้ว่าสีดำสามารถตัดกับสีอื่น ๆ และเสริมกับสีอื่นได้เป็นอย่างดี แต่อย่าใช้สีดำกับเป็นสีทาภายนอก เพราะสีดำดูดซับความร้อนเป็นอย่างดี และจะทำให้บ้านร้อนมาก ๆ ในช่วงฤดูร้อน ส่วนผนังภายในบ้าน หากบ้านไม่ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอ ก็ต้องหลีกเลี่ยงสีดำด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นภายในบ้านจะมืดมาก

สีนีออนไม่ดีต่อดวงตา

แม้ว่าสีนีออนจะแพร่หลายในวงการแฟชั่น แต่ใช้ไม่ได้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ สีนีออนไม่ว่าจะเฉดสีใดก็ตาม กระตุ้นให้เกิดความน่ารำคาญต่อสายตา เราอาจเลือกใช้สีนีออนกับมุมเล็ก ๆ ในบ้านได้ แต่ต้องไม่มากเกิน ดังนั้น แทนที่จะใช้สีที่สว่างสดใสเกินไปแบบสีนีออน เลือกเฉดสีกลาง ๆ สีอ่อน ๆ เช่น สีเทา จะทำให้บ้านดูสะอาดตาและน่าอยู่มากกว่า

ไม่ควรใช้สีเทาในห้องออกกำลังกาย

แม้ว่าสีเทาจะเป็นสีที่สุภาพและเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสีผนังบ้าน แต่มันไม่ควรอยู่ในห้องที่ใช้สำหรับออกกำลังกาย สีเทาจะทำให้ความกระตือรือร้นหายไปและไม่มีแรงกระตุ้น ไม่สร้างแรงบันดาลให้ลุกไปออกกำลังกายด้วย หากอยากกระปรี้กระเปร่า และสนุกกับการออกกำลังกาย ให้ใช้สีส้ม มีผลต่อการเพิ่มออกซิเจนในสมอง กระตุ้นจิตใจ และพลังในการออกกำลังกาย

จิตวิทยาสีในบ้าน

สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นในชีวิต เราจัดทำคำแนะนำสั้น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ดีที่สุดและสีที่แย่ที่สุดที่คุณควรใช้ในบางพื้นที่ของบ้านของคุณ

ห้องครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร

สีโทนอุ่นจะกระตุ้นความอยากอาหาร ดังนั้น หากต้องการจำกัดปริมาณแคลอรี่หรืออยากลดน้ำหนัก ต้องหลีกเลี่ยงห้องครัวสีส้ม สีแดง และสีเหลือง ถ้าเป็นสีโทนนี้ ให้หันไปใช้สีครีมแทน

ห้องทำงาน

นักวิจัยจาก Creighton University เผยผลการวิจัยว่า คนที่ทำงานอยู่ในห้องที่ทาด้วยสีฟ้า มีประสิทธิผล เป้าหมาย ความสงบ และมีสมาธิจดจ่อมากกว่า เมื่อเทียบกับคนที่ทำงานในห้องสีขาวหรือสีเทา ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดความผิดพลาดในการทำงานน้อยกว่าด้วย

ห้องนั่งเล่น

สำหรับห้องนั่งเล่นแล้ว สีเขียวอาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะสีเขียวทำให้รู้สึกสงบ คลายความกังวล และรู้สึกถึงความปลอดภัย หลังจากที่เคร่งเครียดกับการทำงาน ลองใช้สีเขียวช่วยดู ที่สำคัญ สีเขียวยังดีต่อดวงตาของเราด้วย แต่อย่าเลือกสีส้มมาใช้กับห้องนั่งเล่น แทนที่จะรู้สึกผ่อนคลาย สีส้มจะกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

ห้องนอน

การใช้สีดำไม่ได้เหมาะกับห้องนอน ด้วยสีดำเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความก้าวร้าว ในห้องนอน เราแค่ต้องการสีที่ส่งผ่านความรู้สึกในตัวเองและทำให้รู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน

ห้องน้ำ

การเลือกสีดำสำหรับห้องน้ำก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเช่นกัน ตัวเลือกสีที่ดีที่สุดของน้ำควรจะเป็นสีเหลือง เพราะมันช่วยให้รู้สึกถึงความสนุกสนาน อีกทั้งตามหลักจิตวิทยาและฮวงจุ้ยนั้น สีเหลืองสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ รวมถึงการทำงานของสมองด้วย

การเลือกใช้สีในบ้าน ไม่เพียงแต่คำนึงถึงผลทางจิตวิทยาของอารมณ์และความรู้สึกเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อมูลค่าของบ้านด้วย หากคิดจะขายเป็นบ้านมือสอง ฉะนั้น ต้องฉลาดในการเลือกใช้สีในห้องต่าง ๆ โดยต้องรู้ว่าสีอะไรไม่ควรใช้กับห้องไหน เพราะหากเลือกใช้สีที่ไม่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานของห้องต่าง ๆ ในบ้าน ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าการอยู่บ้านไม่สะดวกสบาย หรือผ่อนคลายเท่าที่ควร